(Out Class)
การเรียนภาษาอังกฤษเราสามารถเรียนรู้ได้จากในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
การเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนอาจมีข้อจำกัดคือครูผู้สอนอาจไม่สมารถดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง ไม่ว่าจะในระดับประถมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษา
ดิฉันเป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่อาจมีปัญหาที่เกิดขึ้นจากข้อจำกัดนี้
ทำให้หารเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียน ไม่เข้าใจเรื่องที่เรียนอย่างถ่องแท้
ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อนบ้างบางครั้ง ฉะนั้นการที่เราไม่เข้าใจภาษาอังกฤษจากห้องเรียนเราก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองได้
การที่ดิฉันได้เรียนรู้ด้วยตนเองทำให้ฉันกดดันน้อยลง และ มีความมั่นใจมากขึ้น
หลายๆ สัปดาห์ที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากนอกห้องเรียน
ทำให้ดิฉันมีความรู้เพิ่มขึ้น ได้ฝึกทักษะภาษาทั้ง 4 ทักษะ
ทำให้การเรียนในห้องเรียนก็จะมีผลดีขึ้น เข้าใจง่ายมากขึ้นด้วย
ในสัปดาห์นี้ดิฉันได้ฝึกทักษะการแปล
จากเพลงที่ดิฉันชอบคือเพลง You Belong With
Me ของ Taylor Swift ในขั้นแรกดิฉันได้ฟังก่อนประมาณ
3 รอบ แล้วหาเนื้อเพลงของเพลงนี้
แล้วหาคำศัพท์ในเนื้อเพลงที่ยังไม่รู้แล้วลองแปลในครั้งแรก ในครั้งแรกการแปลของดิฉันใช้ภาษาที่ไม่สละสลวย
อ่านไม่เข้าใจเท่าไหรนัก ลองแปลครั้งต่อไป ลองใช้ภาษาให้สละสลวยขึ้นก็รู้สึกว่า
เรื่องราวในเพลงนั้น เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอหลงรักผู้ชายคนหนึ่ง
แต่ผู้ชายคนนั้นมีแฟนแล้ว ซึ่งสวยและดูดีทุกอย่างทั้งการแต่งตัวและการใช้ชีวิต
ซึ่งแตกต่างกับเธอ แต่เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคนที่เธอหลงรัก
เธอเฝ้าคอยตั้งคำถามว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นเธอบ้างทั้งอยู่เธอและเขาอยู่ใกล้กันมาก
เขาไม่รู้ว่าเขาและเธอเข้ากันได้ทุกอย่าง
เธอฝันและคิดถึงวันที่เขาตื่นขึ้นมาและเจอกับเธอผู้ที่เข้าใจทุกอย่าง และพวกเขาเข้ากันได้ดีสำหรับในการแปลในครั้งนี้ที่เลือกใช้เพลงนี้
เนื่องจาก
เพลงนี้ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายเพราะการที่เราจะทำอะไรหรือเรียนรู้อะไรเราควรเรียนรู้จากการทำที่ง่ายๆ
ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับของการฝึกฝน
You belong with me
You’re on the
phone
With your
girlfriend คุณถือสายคุยกับแฟน
She’s upset เธออารมณ์เสีย
She’s going off
about something เธอโกรธคุณ
That you said เธอไม่ตลกมุขของคุณ
She doesn’t get
your humor เหมือนฉันเป็น
Like I do
I’m in my room ฉันอยู่ในห้องของฉัน
It’s at typical
Tuesday night มันคือคืนวันอังคารธรรมดา
I’m listening
to the kind of music ฉันกำลังฟังเพลงที่เธอ
She don’t like ไม่ชอบฟัง
She’ll never
know your story เธอไม่รู้เรื่องราวของคุณ
Like I do เหมือนที่ฉันรู้
But she wears
short skirts เธอใส่กระโปรงสั้น
I wears
T-shirts แต่ฉันใส่เสื้อยืด
She’s cheer
captain เธอเป็นกัปตันเชียร์
And I’m on the
bleachers ฉันอยู่บนวัฒจรรย์
Dreaming about
the day และฝันถึงวันนั้น
When you wake
up and find เมื่อคุณตื่นขึ้นมา
That what
you’re looking for แล้วพบว่าสิ่งที่คุณเองหา
Has been here
the whole time ฉันอยู่ตรงนี้มานานแล้ว
*If you could
see ถ้าคุณได้เห็น
That I’m the
one ว่าฉันคือคนหนึ่งที่
Who understand
you เข้าใจคุณ คนที่อยู่
Been here all
along ตรงนี้มาตั้งแต่ต้น
So why can’t
you see ทำไมคุณไม่เห็นว่า
You belong with
me เราเหมาะสมกัน
Walking the
streets with you เดินบนถนนกับคุณ
In you worn out
jeans คุณใส่กางเกงยีนส์เก่าๆ
I can’t help
thinking ฉันหยุดคิดไม่ได้
This is how it
ought to be ว่ามันควรจะเป็นแบบนี้
Laughing on a
park bench ฉันหัวเราะอยู่บนม้านั่ง
Hey, isn’t this
easy? มันไม่ง่ายดายไม่ใช่เหรอ ?
And you’re got
a smile คุณมีรอยยิ้ม ซึ่งมัน
That could
light up this whole town สว่างไปทั้งเมือง
I haven’t seen
it in a while ฉันไม่เห็นมันมาสักพัก
Since she brought
you down ตั้งแต่เธอทำให้คุณทุกข์
She says you’re
fine เธอบอกว่าคุณดี
I know you
better than that ฉันรู้ว่าคุณดีกว่านั้น
Hey whatchu
doing เฮ้! คุณทำอะไรอยู่
With a girl
like that กับผู้หญิงคนหนึ่ง
She wear high
heels เธอใส่รองเท้าส้นสูง
I wear sneakers
ฉันใส่ผ้าใบ
She’s cheer
captain เธอเป็นกับตันเชียร์
I’m on the
bleachers ฉันอยู่บนอัฒจรรย์
Dreaming about
the day กำลังฝันถึงวันนั้น
When you wake
up and fine เมื่อเธอตื่นขึ้นมาและพบ
That what
you’re looking for ว่าสิ่งที่คุณมองหาอยู่
Has been here the whole time อยู่ที่นี้นานแล้ว
(*)
Oh, I remember โอ้ ฉันจำได้
You driving to
my house คุณขับรถมาที่บ้านฉัน
In the middle
of the night ในกลางคืนของคืนนั้น
I’m the one who
makes you laugh ฉันเป็นคนหนึ่งที่จะทำให้คุณหัวเราะได้
When you know
you’re about to cry ตอนที่คุณรู้ว่าคุณ
And you tell me
about your dreams จะร้องไห้
คุณบอก
Think I know
where you belong ฉันเกี่ยวกับฝันของคุณ
Think I know
it’s with me คิดว่าฉันรู้ว่ามันคือฉัน
Can’t you see
that I’m the one คุณไม่เห็นว่าฉันคือคนหนึ่ง?
Who understands
คนที่เข้าใจคุณ?
Been here all
along ที่อยู่กับคุณมาตั้งแต่ต้น
So why can’t
you see? แล้วทำไมคุณถึงไม่เห็น
You belong with
me ว่าเราเหมาะสมกัน
Have you ever
thought ไม่เคยคิดบ้างเลยหรือว่า?
Just maybe แค่บางที
You belong with
me คุณกับฉันเข้ากันได้
ในการฝึกครั้งนี้นอกจากจะได้ฝึกฝนการแปลเพลงแล้ว
ดิฉันยังได้สังเกตพบลักษณะการใช้ Tense ต่างๆ
ในเนื้อเพลงอีกด้วย ในเพลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น