(out class)
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้า
ทำให้โลกมีวิวัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างไร้พรมแดน
สังคมประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการจัดการศึกษา
เร่งพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคนไทย ให้มีศักยภาพพอเพียง
ในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษควรให้ความสำคัญกับการอ่าน
เพราะการอ่านเป็นทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิต การอ่านเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแสวงหาความรู้
เนื่องจากการอ่านจะช่วยสร้างเสริมความรู้ความคิดของมนุษย์ให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น
แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีมากขึ้น
คนไทยจึงอาจละเลยการอ่านหนังสือไปบ้างเช่นเดียวกับตัวดิฉัน
เป็นคนที่อ่านหนังสือน้อยมาก เนื่องจากอ่านแล้วไม่เข้าใจ ในการอ่านแต่ละครั้งจะอ่านเมื่อใกล้จะสอบแล้วเท่านั้น
แต่มักจะเกิดปัญหาคืออ่านแล้วสับสนไม่สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้
ในสัปดาห์นี้จึงอยากที่จะฝึกฝนการอ่านของตนเอง
จึงได้ค้นหาวิธีการอ่านหรือเทคนิควิธีการต่างๆ ในการพัฒนาฝึกฝนการอ่านให้ง่ายขึ้น
สนุกและไม่เครียด และอ่านอย่างไรให้เข้าใจการอ่านภาษาที่ไม่ใช่ภาษาประจำชาติของตัวเราเอง
โดยไม่ต้องนั่งเปิดพจนานุกรรมให้เสียเวลา
ในการค้นหาวิธีการอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง
ดิฉันได้เจอกับเว็บไซด์หนึ่งชื่อว่า เว็บไซด์เด็กดีดอทคอม (www.dek–d.com/education/31069/.) เป็นเว็บไซด์สำหรับคนที่ต้องการฝึกฝนภาษาอังกฤษ
จะมีเทคนิค วิธีการต่างๆ ในการเรียนและยังมีแนวทางการเรียนรู้ ฝึกฝน ทักษะทั้ง
การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยในเว็บไซด์จะพูดถึงการฝึกทักษะการอ่าน
อ่านอย่างไรให้เก่ง อ่านอย่างไรให้เข้าใจ โดยจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับรูปแบบของการอ่าน
ข้อสงสัยเมื่ออ่านภาษาอังกฤษไปแล้ว การสร้างคลังคำศัพท์ ความสม่ำเสมอในการฝึกฝน
และการพัฒนาระดับความยากของการอ่านภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้เว็บนี้ยังสามารถแบ่งปันวิธีการฝึกฝนการอ่าน หรือทักษะอื่นๆ
ที่สามารถนำมาแบ่งปันกันได้ หากทุกคนได้ทำตามเคล็ดไม่ลับวิธีการพัฒนาการอ่านนี้
และทำเป็นประจำแล้ว การอ่านภาษาอังกฤษจะคล่องขึ้น
วิธีการอ่านที่สามรถพัฒนาการอ่านของเราวิธีการแรกคือ
1. อ่านหลากหลายรูปแบบ ถ้าหากอยากจะเก่งด้านการอ่าน
จะต้องปรับทัศนคติในเรื่อง “สื่อ” เป็นอันดับแรก
ต้องเปิดใจอ่านสื่อให้ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ นิตยาสาร/วารสารภาษาอังกฤษ โบรชัวร์ภาษาอังกฤษ หรือเว็บไซด์-บล็อก-ข่าว จากเว็บต่างประเทศ สื่อทุกๆสื่อ คือแหล่งเรียนรู้ที่ดีมาก
เพียงแค่เราเปิดใจเราก็จะเป็นคนที่อ่านเก่งได้ นอกจากนี้ “เรื่อง”
ที่จะอ่านไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ทั้งนิยาย บทความ คอลัมน์ ข่าว
หรือแม้กระทั่งประกาศต่างๆ พยายามฝึกตัวเองให้เข้าหาสื่อ ฝึกความเร็วในการอ่าน
และจะทำให้เราชินกับสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้ในงานเขียน
และทำให้เราอ่านแล้วเกิดความเข้าใจมากขึ้น
2. สงสัยแล้วให้หาคำตอบ ในช่วงแรกๆ อาจจะมีปัญหา
และเกิดความสงสัย ให้โน้ตเอาไว้ แล้วค่อยไปกาคำตอบ
คำตอบที่หามาได้นั้นแหละจะเป็นสิ่งที่อยู่ในความจำของเราได้นาน
3. ขยันเปิด Dictionary ในการอ่านแต่ละครั้งเรามักจะเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ความหมาย
หากเป็นช่วงแรกเราควรเปิด Dictionary ให้บ่อยๆ ไว้ก่อน
แต่ถ้าหากฝึกจนเกิดความชำนาญอาจจะดูความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายจากบริบทรอบๆ
วิธีนี้จะทำให้เรารู้คำศัพท์มากขึ้น เมื่อรู้คำศัพท์ การอ่านก็จะเข้าใจมากขึ้นด้วย
4. สร้างคลังคำของตัวเอง คือจัดระบบคำศัพท์ให้ง่ายต่อการนำมาใช้
เราอาจจดคำศัพท์ไว้ในสมุด อาจทำเป็นตาราง เสร็จแล้วหาคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงหรือความหมายตรงกันข้าม
วิธีนี้จะทำให้เรามีคลังคำศัพท์
5. ฝึกอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันจนเป็นนิสัย
อาจแบ่งเวลาจากการเรียนแรกๆ อาจอ่านเรื่องสั้นๆ แบบพื้นฐานก่อน
ที่คำศัพท์ไม่ยากมาก แล้วค่อยๆเพิ่มเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
และหากอ่านแล้วเกิดไม่รู้คำศัพท์แล้วสงสัยเราก็ใช้วิธีการในข้อ 2 และข้อ 3 เลย
ขั้นตอนทั้งหมดนี้อาจดูไม่เยอะ
แต่เมื่อเราได้ลองลงมือทำจริงๆ มันจะเป็นการวัดตัวเราว่าเราจะทำได้หรือไม่
เราพยายามมากพอหรือยัง ในการฝึกฝนตัวเราเอง แต่หากเราต้องการเก่งจริงๆ
เราต้องพยายามฝึกฝนตัวเองอยู่เป็นประจำ และต้องมีความตั้งใจ
เชื่อว่าหากเราตั้งใจทำอะไรเราต้องทำได้และทำได้ดีด้วย
จากวิธีการในเว็บไซด์ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา ดิฉันได้ลองทำในวิธีการที่ 1 และ 2 และมีความคิดว่าเป็นวิธีที่ได้ผลใช้ได้
แต่ดิฉันอาจยังไม่มีความพยายามมากพอยังคงจะต้องพยายามฝึกฝนให้ดีกว่านี้
ทั้งห้าวิธีการนี้เป็นวิธีที่ดี ไม่ยากเกินไปในการฝึกฝน
อีกวิธีการหนึ่งในการฝึกฝนการอ่านเป็นวิธีที่ได้ศึกษาจาก เว็บไซด์เช่นกัน
เป็นเว็บไซด์ที่ชื่อว่า Eduzones ซึ่งจะเป็นเทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษให้
get ไวและเข้าใจเร็ว ! ผ่านเทคนิคการอ่าน
“2S” โดยมีวิธีการดังนี้ S ตัวแรกเท่ากับ
Skimming (กวาดตาให้ไว) การดูภาพรวมกว้างๆ
อย่างเร็วง่ายๆโดยการเริ่มจาก อ่านชื่อเรื่อง ดูรูปภาพ อ่านหัวข้อใหญ่ อ่านบทนำ
และดูสรุปในย่อหน้าสุดท้าย พอเราวิธีการ S ตัวแรกเราก็จะรู้เรื่องราวไปบางส่วนแล้ว
หลังจากนั้นต่อด้วย วิธีการ S ตัวที่สอง นั้นคือ Scanning (เจาะลึก เก็บประเด็น
เน้น detail) คือการอ่านหารายละเอียดลึกๆ ของเรื่อง
เมื่อเรารู้เรื่องราวคล่าวๆ จากการ Skimming มาแล้ว การ Scanning
ก็ไม่ยากแล้ว เทคนิคนี้จะช่วยให้เราอ่านได้ไว และอ่านได้เร็วขึ้น
วิธีการ
2S นี้ดิฉันเคยมีพื้นฐานจากการเรียน Reading มาบ้างแล้วทำให้ดิฉันสามารถปฏิบัติได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด
การอ่านจะพัฒนาดีขึ้นหรือไม่จะต้องขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย วิธีการเทคนิคต่างๆ
นี้หากตัวเราไม่ฝึกปฏิบัติเราก็ไม่อาจเก่งขึ้นได้
สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า
โลกมีวิวัฒนาการ โลกสังคมไทยได้รับผลกระทบ การศึกษาไทยจำเป็นต้องมีการจัดการศึกษา
และเร่งพัฒนาคนไทยให้มีศักยภาพ ทักษะการอ่านเป็นทักษะสำคัญที่คนไทยจำเป็นต้องพัฒนา
เนื่องจากการอ่านจะช่วยเสริมสร้างความรู้ ความคิดให้เพิ่มพูน
ในปัจจุบันมีวิธีการหรือเทคนิคในการฝึกอ่านมากมาย แต่จากการศึกษาค้นคว้าดูแล้ว มี 2 เว็บไซด์ที่ดิฉันได้ลองฝึกฝนแล้วสามารถพัฒนาด้านการอ่านได้ดีขึ้นนั้นคือเว็บไซด์
dek.d และ Eduzones แม้ว่า 2 เว็บนี้จะมีเทคนิคที่ต่างกัน แต่ทั้ง 2 เว็บก็มีเทคนิคที่ดีในการฝึกฝน
และเป็นวิธีที่สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านการอ่านได้ดี และตัวเราต้องฝึกฝนบ่อยๆ
เพื่อให้การฝึกฝนเกิดประสิทธิภาพจริงๆ