วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

Learning Log 5


(out class)
            ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ทำให้โลกมีวิวัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างไร้พรมแดน สังคมประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเจริญเติบโตของเทคโนโลยี ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการจัดการศึกษา เร่งพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคนไทย ให้มีศักยภาพพอเพียง ในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษควรให้ความสำคัญกับการอ่าน เพราะการอ่านเป็นทักษะที่สำคัญในการดำรงชีวิต การอ่านเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแสวงหาความรู้ เนื่องจากการอ่านจะช่วยสร้างเสริมความรู้ความคิดของมนุษย์ให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีมากขึ้น คนไทยจึงอาจละเลยการอ่านหนังสือไปบ้างเช่นเดียวกับตัวดิฉัน เป็นคนที่อ่านหนังสือน้อยมาก เนื่องจากอ่านแล้วไม่เข้าใจ ในการอ่านแต่ละครั้งจะอ่านเมื่อใกล้จะสอบแล้วเท่านั้น แต่มักจะเกิดปัญหาคืออ่านแล้วสับสนไม่สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้ ในสัปดาห์นี้จึงอยากที่จะฝึกฝนการอ่านของตนเอง จึงได้ค้นหาวิธีการอ่านหรือเทคนิควิธีการต่างๆ ในการพัฒนาฝึกฝนการอ่านให้ง่ายขึ้น สนุกและไม่เครียด และอ่านอย่างไรให้เข้าใจการอ่านภาษาที่ไม่ใช่ภาษาประจำชาติของตัวเราเอง โดยไม่ต้องนั่งเปิดพจนานุกรรมให้เสียเวลา
            ในการค้นหาวิธีการอ่านภาษาอังกฤษให้เก่ง ดิฉันได้เจอกับเว็บไซด์หนึ่งชื่อว่า เว็บไซด์เด็กดีดอทคอม (www.dek–d.com/education/31069/.) เป็นเว็บไซด์สำหรับคนที่ต้องการฝึกฝนภาษาอังกฤษ จะมีเทคนิค วิธีการต่างๆ ในการเรียนและยังมีแนวทางการเรียนรู้ ฝึกฝน ทักษะทั้ง การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยในเว็บไซด์จะพูดถึงการฝึกทักษะการอ่าน อ่านอย่างไรให้เก่ง อ่านอย่างไรให้เข้าใจ โดยจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับรูปแบบของการอ่าน ข้อสงสัยเมื่ออ่านภาษาอังกฤษไปแล้ว การสร้างคลังคำศัพท์ ความสม่ำเสมอในการฝึกฝน และการพัฒนาระดับความยากของการอ่านภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เว็บนี้ยังสามารถแบ่งปันวิธีการฝึกฝนการอ่าน หรือทักษะอื่นๆ ที่สามารถนำมาแบ่งปันกันได้ หากทุกคนได้ทำตามเคล็ดไม่ลับวิธีการพัฒนาการอ่านนี้ และทำเป็นประจำแล้ว การอ่านภาษาอังกฤษจะคล่องขึ้น
            วิธีการอ่านที่สามรถพัฒนาการอ่านของเราวิธีการแรกคือ
            1. อ่านหลากหลายรูปแบบ ถ้าหากอยากจะเก่งด้านการอ่าน จะต้องปรับทัศนคติในเรื่อง สื่อเป็นอันดับแรก ต้องเปิดใจอ่านสื่อให้ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ นิตยาสาร/วารสารภาษาอังกฤษ โบรชัวร์ภาษาอังกฤษ หรือเว็บไซด์-บล็อก-ข่าว จากเว็บต่างประเทศ สื่อทุกๆสื่อ คือแหล่งเรียนรู้ที่ดีมาก เพียงแค่เราเปิดใจเราก็จะเป็นคนที่อ่านเก่งได้ นอกจากนี้ เรื่องที่จะอ่านไม่ว่าจะเป็นแนวไหน ทั้งนิยาย บทความ คอลัมน์ ข่าว หรือแม้กระทั่งประกาศต่างๆ พยายามฝึกตัวเองให้เข้าหาสื่อ ฝึกความเร็วในการอ่าน และจะทำให้เราชินกับสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้ในงานเขียน และทำให้เราอ่านแล้วเกิดความเข้าใจมากขึ้น
            2. สงสัยแล้วให้หาคำตอบ ในช่วงแรกๆ อาจจะมีปัญหา และเกิดความสงสัย ให้โน้ตเอาไว้ แล้วค่อยไปกาคำตอบ คำตอบที่หามาได้นั้นแหละจะเป็นสิ่งที่อยู่ในความจำของเราได้นาน
            3. ขยันเปิด Dictionary ในการอ่านแต่ละครั้งเรามักจะเจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ความหมาย หากเป็นช่วงแรกเราควรเปิด Dictionary ให้บ่อยๆ ไว้ก่อน แต่ถ้าหากฝึกจนเกิดความชำนาญอาจจะดูความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายจากบริบทรอบๆ วิธีนี้จะทำให้เรารู้คำศัพท์มากขึ้น เมื่อรู้คำศัพท์ การอ่านก็จะเข้าใจมากขึ้นด้วย
            4. สร้างคลังคำของตัวเอง คือจัดระบบคำศัพท์ให้ง่ายต่อการนำมาใช้ เราอาจจดคำศัพท์ไว้ในสมุด อาจทำเป็นตาราง เสร็จแล้วหาคำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงหรือความหมายตรงกันข้าม วิธีนี้จะทำให้เรามีคลังคำศัพท์
            5. ฝึกอ่านทุกวัน ฝึกทุกวันจนเป็นนิสัย อาจแบ่งเวลาจากการเรียนแรกๆ อาจอ่านเรื่องสั้นๆ แบบพื้นฐานก่อน ที่คำศัพท์ไม่ยากมาก แล้วค่อยๆเพิ่มเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ และหากอ่านแล้วเกิดไม่รู้คำศัพท์แล้วสงสัยเราก็ใช้วิธีการในข้อ 2 และข้อ 3 เลย
            ขั้นตอนทั้งหมดนี้อาจดูไม่เยอะ แต่เมื่อเราได้ลองลงมือทำจริงๆ มันจะเป็นการวัดตัวเราว่าเราจะทำได้หรือไม่ เราพยายามมากพอหรือยัง ในการฝึกฝนตัวเราเอง แต่หากเราต้องการเก่งจริงๆ เราต้องพยายามฝึกฝนตัวเองอยู่เป็นประจำ และต้องมีความตั้งใจ เชื่อว่าหากเราตั้งใจทำอะไรเราต้องทำได้และทำได้ดีด้วย
               จากวิธีการในเว็บไซด์ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา ดิฉันได้ลองทำในวิธีการที่ 1 และ 2 และมีความคิดว่าเป็นวิธีที่ได้ผลใช้ได้ แต่ดิฉันอาจยังไม่มีความพยายามมากพอยังคงจะต้องพยายามฝึกฝนให้ดีกว่านี้ ทั้งห้าวิธีการนี้เป็นวิธีที่ดี ไม่ยากเกินไปในการฝึกฝน อีกวิธีการหนึ่งในการฝึกฝนการอ่านเป็นวิธีที่ได้ศึกษาจาก เว็บไซด์เช่นกัน เป็นเว็บไซด์ที่ชื่อว่า Eduzones ซึ่งจะเป็นเทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษให้ get ไวและเข้าใจเร็ว ! ผ่านเทคนิคการอ่าน “2S” โดยมีวิธีการดังนี้ S ตัวแรกเท่ากับ Skimming (กวาดตาให้ไว) การดูภาพรวมกว้างๆ อย่างเร็วง่ายๆโดยการเริ่มจาก อ่านชื่อเรื่อง ดูรูปภาพ อ่านหัวข้อใหญ่ อ่านบทนำ และดูสรุปในย่อหน้าสุดท้าย พอเราวิธีการ S ตัวแรกเราก็จะรู้เรื่องราวไปบางส่วนแล้ว  หลังจากนั้นต่อด้วย วิธีการ S ตัวที่สอง นั้นคือ Scanning (เจาะลึก เก็บประเด็น เน้น detail) คือการอ่านหารายละเอียดลึกๆ ของเรื่อง เมื่อเรารู้เรื่องราวคล่าวๆ จากการ Skimming มาแล้ว การ Scanning ก็ไม่ยากแล้ว เทคนิคนี้จะช่วยให้เราอ่านได้ไว และอ่านได้เร็วขึ้น
            วิธีการ 2S นี้ดิฉันเคยมีพื้นฐานจากการเรียน Reading มาบ้างแล้วทำให้ดิฉันสามารถปฏิบัติได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด การอ่านจะพัฒนาดีขึ้นหรือไม่จะต้องขึ้นอยู่กับตัวเราด้วย วิธีการเทคนิคต่างๆ นี้หากตัวเราไม่ฝึกปฏิบัติเราก็ไม่อาจเก่งขึ้นได้
            สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้

            เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า โลกมีวิวัฒนาการ โลกสังคมไทยได้รับผลกระทบ การศึกษาไทยจำเป็นต้องมีการจัดการศึกษา และเร่งพัฒนาคนไทยให้มีศักยภาพ ทักษะการอ่านเป็นทักษะสำคัญที่คนไทยจำเป็นต้องพัฒนา เนื่องจากการอ่านจะช่วยเสริมสร้างความรู้ ความคิดให้เพิ่มพูน ในปัจจุบันมีวิธีการหรือเทคนิคในการฝึกอ่านมากมาย แต่จากการศึกษาค้นคว้าดูแล้ว มี 2 เว็บไซด์ที่ดิฉันได้ลองฝึกฝนแล้วสามารถพัฒนาด้านการอ่านได้ดีขึ้นนั้นคือเว็บไซด์ dek.d และ Eduzones แม้ว่า 2 เว็บนี้จะมีเทคนิคที่ต่างกัน แต่ทั้ง 2 เว็บก็มีเทคนิคที่ดีในการฝึกฝน และเป็นวิธีที่สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านการอ่านได้ดี และตัวเราต้องฝึกฝนบ่อยๆ เพื่อให้การฝึกฝนเกิดประสิทธิภาพจริงๆ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น